top of page

หญิงตั้งครรภ์

ฐานข้อมูลการใช้ยาที่มีข้อจำกัดในผู้ป่วยกลุ่มพิเศษ สำนักอนามัย
ตาม Service Plan: Rational Drug Use

 สำหรับบุคลากรการแพทย์ สำนักอนามัย  

ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

หญิงตั้งครรภ์

Amikacin

  • ตรวจติดตามระดับยาในเลือดของมารดา

ควรหลีกเลี่ยง

หญิงตั้งครรภ์

Candesartan

  • หลีกเลี่ยงการใช้ในหญิงตั้งครรภ์ไตรมาสแรก

ควรหลีกเลี่ยง

หญิงตั้งครรภ์

Enalapril

  • หลีกเลี่ยงการใช้ในหญิงตั้งครรภ์ไตรมาสแรก

ควรหลีกเลี่ยง

หญิงตั้งครรภ์

Losartan

  • หลีกเลี่ยงการใช้ในหญิงตั้งครรภ์ไตรมาสแรก

ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

หญิงตั้งครรภ์

Phenobarbital

  • พิจารณาถึงความจำเป็นในการใช้ยา กรณีที่ไม่มีอาการชักติดต่อกันเกิน 2 ปี อาจพิจารณาหยุดยากันชักก่อนตั้งครรภ์

  • ในหญิงตั้งครรภ์ที่กินยากันชักอยู่แล้ว ไม่ควรลดหรือหยุดยากินยา แต่ควรให้ในขนาดที่ต่ำสุด ที่ควบคุมอาการได้

  • ไม่แนะนำให้ใช้ยากันชักมากกว่า 1 ชนิดร่วมกัน เนื่องจากมีผลเพิ่มการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้

  • ให้ยา folic acid 5 mg/วัน ในระหว่างที่ใช้ยากันชัก อาจลดโอกาสเกิดความพิการในทารก และช่วยป้องกันการขาด folic acid ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความผิดปกติ

  • เมื่ออายุครรภ์ได้ 12 -16 สัปดาห์ ควรได้รับการตรวจคัดหรองภาวะผิดรูปของทารกในครรภ์ด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์

  • ในระหว่างตั้งครรภ์ให้กิน vitamin K 10 mg/วัน เป็นเวลา 1 เดือนก่อนคลอด และเมื่อคลอดแล้วทารกต้องได้รับการฉีด vitamin K 1 mg เข้ากล้ามเนื้อ

ห้ามใช้

หญิงตั้งครรภ์

Simvastatin

  • เพิ่มความเสี่ยงของภาวะทารกพิการแต่กำเนิด ถึง 2.5 เท่า

ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

หญิงตั้งครรภ์

Tobramycin

ตรวจติดตามระดับยาในเลือดของมารดา

ห้ามใช้

หญิงตั้งครรภ์

Atorvastatin

  • เพิ่มความเสี่ยงของภาวะทารกพิการแต่กำเนิด ถึง 2.5 เท่า

ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

หญิงตั้งครรภ์

Carbamazepine

  • พิจารณาถึงความจำเป็นในการใช้ยา กรณีที่ไม่มีอาการชักติดต่อกันเกิน 2 ปี อาจพิจารณาหยุดยากันชักก่อนตั้งครรภ์

  • ในหญิงตั้งครรภ์ที่กินยากันชักอยู่แล้ว ไม่ควรลดหรือหยุดกินยา แต่ควรให้ในขนาดที่ต่ำสุด ที่ควบคุมอาการได้

  • ไม่แนะนำให้ใช้ยากันชักมากกว่า 1 ชนิดร่วมกัน เนื่องจากมีผลเพิ่มการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้

  • ให้ยา folic acid 5 mg/วัน ในระหว่างที่ใช้ยากันชัก อาจลดโอกาสเกิดความพิการในทารก และช่วยป้องกันการขาด folic acid ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความผิดปกติ

  • เมื่ออายุครรภ์ได้ 12 - 16 สัปดาห์ ควรได้รับการตรวจคัดกรองภาวะผิดรูปของทารกในครรภ์ด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์

  • ในระหว่างตั้งครรภ์ให้กิน vitamin K 10 mg/วัน เป็นเวลา 1 เดือนก่อนคลอด และเมื่อคลอดแล้วทารกต้องได้รับการฉีด vitamin K 1 mg เข้ากล้ามเนื้อ

ห้ามใช้

หญิงตั้งครรภ์

Ergotamine

  • กระตุ้นการบีบตัวของมดลูก

ห้ามใช้

หญิงตั้งครรภ์

Losartan

  • ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 2 และ 3 

  • ยาอาจทำให้ทารกในครรภ์เกิดการทำงานของไตผิดปกติ, oligohydramnios, skull ossification, mental retardation

ควรหลีกเลี่ยง

หญิงตั้งครรภ์

Pseudoephedrine

  • หลีกเลี่ยงการใช้ในหญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก

ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

หญิงตั้งครรภ์

Streptomycin

  • ตรวจติดตามระดับยาในเลือดของมารดา

ห้ามใช้

หญิงตั้งครรภ์

Candesartan

  • ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 2 และ 3 

  • ยาอาจทำให้ทารกในครรภ์เกิดการทำงานของไตผิดปกติ, oligohydramnios, skull ossification, mental retardation

ห้ามใช้

หญิงตั้งครรภ์

Enalapril

  • ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 2 และ 3 

  • ยาอาจทำให้ทารกในครรภ์เกิดการทำงานของไตผิดปกติ, oligohydramnios, skull ossification, mental retardation

ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

หญิงตั้งครรภ์

Kanamycin

  • ตรวจติดตามระดับยาในเลือดของมารดา

ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

หญิงตั้งครรภ์

Neomycin

  • ตรวจติดตามระดับยาในเลือดของมารดา

ห้ามใช้

หญิงตั้งครรภ์

Rosuvastatin

  • เพิ่มความเสี่ยงของภาวะทารกพิการแต่กำเนิด ถึง 2.5 เท่า

ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

หญิงตั้งครรภ์

Terbutaline

  • ไม่ควรใช้นานเกินกว่า 48 - 72 ชั่วโมง

bottom of page